โรคผมร่วงเป็นหย่อม Alopecia Areata AA มีลักษณะอย่างไรและรักษาได้อย่างไร ?

Last updated: 9 ส.ค. 2564  |  3534 จำนวนผู้เข้าชม  | 

โรคผมร่วงเป็นหย่อม Alopecia Areata AA มีลักษณะอย่างไรและรักษาได้อย่างไร ?

 

 ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไป แล้วแต่บุคคล

 

โรคผมร่วงเป็นหย่อม Alopecia Areata AA มีลักษณะอย่างไรและรักษาได้อย่างไร ?

เป็นโรคผมร่วงที่มีลักษณะการร่วงเป็นหย่อม อาจมีเพียงหย่อมเดียวหรือหลายหย่อม สามารถเกิดได้กับทุกบริเวณของร่างกายที่มีผมหรือขน

หมอมีคลิปวิดีโอการตรวจเส้นผมและหนังศีรษะในโรคผมร่วงเป็นหย่อมมาฝากกันครับ <<>> https://youtu.be/8YDxAlxhoGU 

โรคผมร่วงเป็นหย่อม Alopecia Areata AA มีลักษณะอย่างไรและรักษาได้อย่างไร ?

โรคผมร่วงเป็นหย่อม Alopecia Areata AA มีลักษณะอย่างไรและรักษาได้อย่างไร ?



สาเหตุ
ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดโรคที่ชัดเจน แต่กระบวนการเกิดผมร่วงเกิดจากการที่ภูมิคุ้มกันของร่างกายมีการต่อต้านเซลล์บริเวณรากผม ส่งผลให้เกิดผมร่วงตามมา ปัจจัยประกอบอื่น ๆ พบว่า พันธุกรรมอาจมีส่วนในการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรค นอกจากนี้ยังพบว่าโรคมักเกิดร่วมกับโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันต่อต้านเซลล์ตนเอง เช่น โรคไทรอยด์, โรคด่างขาว โรคเอสแอลอี (SLE) เป็นต้น

โรคผมร่วงเป็นหย่อม Alopecia Areata AA มีลักษณะอย่างไรและรักษาได้อย่างไร ?

โรคผมร่วงเป็นหย่อม Alopecia Areata AA มีลักษณะอย่างไรและรักษาได้อย่างไร ?

โรคผมร่วงเป็นหย่อม Alopecia Areata AA มีลักษณะอย่างไรและรักษาได้อย่างไร ?


อุบัติการณ์
พบได้ประมาณร้อยละ 1 ของประชากร โรคนี้พบได้ในผู้ป่วยทุกเพศ ทุกวัย

อาการและอาการแสดง
ผมร่วงจะมีลักษณะเป็นหย่อม ๆ รูปร่างกลมหรือรีขอบเขตชัดเจน อาจมีหย่อมเดียวหรือหลายหย่อม
บางครั้งหย่อมผมร่วงอาจรวมกันจนลามทั่วศีรษะ ตำแหน่งของผมร่วงส่วนใหญ่เป็นที่ศีรษะ แต่สามารถพบได้ในตำแหน่งอื่นที่มีขนได้แก่ บริเวณหนวด เครา รักแร้ และหัวหน่าว ผิวหนังบริเวณผมร่วงจะมีลักษณะปกติ

อาจพบเส้นผมลักษณะเส้นสั้น ๆ บริเวณโคนผมเรียวเล็กลงคล้ายเครื่องหมายอัศเจรีย์ เป็นลักษณะเฉพาะที่พบในโรคผมร่วงเป็นหย่อม ในระยะที่โรคกำเริบเส้นผมบริเวณรอบ ๆ รอยโรคสามารถดึงหลุดออกได้ง่าย นอกจากนี้อาจจะพบความผิดปกติของเล็บร่วมด้วย เช่น เป็นหลุมเล็ก ๆ บนแผ่นเล็บ หรือนูนเป็นสันตามยาวของเล็บ

การวินิจฉัยโรค
โดยทั่วไปสามารถวินิจฉัยได้จากการซักประวัติและตรวจร่างกาย ยกเว้นในรายที่มีลักษณะไม่ชัดเจน หรือมีอาการทางระบบอื่นร่วมด้วย อาจต้องตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น ตรวจหาเชื้อราด้วยการขูดขุย, เจาะเลือดเพื่อตรวจการติดเชื้อซิฟิลิส, การทำงานของต่อมไทรอยด์, ตรวจหาโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง เป็นต้น ในบางรายอาจต้องยืนยันการวินิจฉัยด้วยการตัดชิ้นเนื้อ

การวินิจฉัยแยกโรค
วินิจฉัยแยกจากโรคผมร่วงในซิฟิลิสระยะที่สอง, โรคเชื้อราที่หนังศีรษะ และโรคดึงผมตนเอง

การรักษา
เริ่มต้นใช้ยาทาสเตียรอยด์ชนิดแรง ทาบริเวณรอยโรค เช้า-เย็น หรือฉีดยาสเตียรอยด์ในบริเวณรอยโรคทุก 4 สัปดาห์ <<>> https://youtu.be/DIUvsv2Tt2Y
ในรายที่มีอาการรุนแรงอาจใช้สเตียรอยด์ชนิดรับประทานแต่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังเนื่องจากผลข้างเคียงของยา หากไม่ได้ผลแพทย์จะพิจารณาใช้ยากลุ่มอื่นได้แก่ anthralin, diphenylcyclopropenone (DCP) เป็นต้น

การพยากรณ์โรค
ผู้ป่วยส่วนใหญ่โรคจะหายเองได้ภายใน 1 ปี แต่อาจกลับเป็นซ้ำได้ถึงร้อยละ 50

ผู้ป่วยบางรายอาจมีโรคอาจลุกลามจนเป็นทั่วศีรษะ (alopecia totalis) หรือเป็นทุกบริเวณของร่างกาย (alopecia universalis)

ในผู้ป่วยที่มีเล็บผิดปกติ, มีระยะการเป็นโรคมานาน, โรคกลับเป็นซ้ำหลายครั้ง, มีผมร่วงเป็นบริเวณกว้างบนศีรษะ, เริ่มเป็นโรคตั้งแต่อายุน้อย, ตำแหน่งผมร่วงเป็นบริเวณแนวของไรผมและเป็นโรคภูมิแพ้ จะมีพยากรณ์โรคไม่ดี

คำแนะนำสำหรับการดูแลเบื้องต้นด้วยตนเอง
โรคนี้อาจหายเองได้โดยไม่จำเป็นต้องรักษาทุกราย แต่ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจติดตามและตรวจหาโรคที่อาจพบร่วม นอกจากนี้ผู้ป่วยควรเข้าใจการดำเนินโรคว่า อาจกลับมาเป็นซ้ำได้ทั้งในบริเวณเดิมหรือบริเวณอื่น ในช่วงรับการรักษาผู้ป่วยสามารถใช้วิกผมในระหว่างที่รอผลการรักษาหรือมีอาการผมร่วงมากได้

ผศ. นพ. ศุภะรุจ เลื่องอรุณ #หมอรุจ
Cr: หมอรุจชวนคุย

.....

 

 ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไป แล้วแต่บุคคล

 ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไป แล้วแต่บุคคล

 ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไป แล้วแต่บุคคล

 ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไป แล้วแต่บุคคล



https://youtu.be/4JeQlTtBQYY 
https://fb.watch/3toTtntEk0/ 
https://fb.watch/3tp04d_Cy-/ 
https://www.blockdit.com/posts/60412f458c601419dab37ff3 
https://youtu.be/JfQ1kJZc0rc 
https://fb.watch/4DNuWC9kfD/ 
https://youtu.be/8YDxAlxhoGU 
https://youtu.be/99EB3tqJsVw 

...

คลิก!! จองสิทธิ์!! เพื่อรับข้อเสนอพิเศษ
(จำนวนจำกัด)

http://line.me/ti/p/@Demedclinic



...
ปรึกษาคุณหมอหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 063-959-4392 / 063-896-2514
Line: http://line.me/ti/p/@Demedclinic    
Line: @Demedclinic
Wechat/Whatsapp: Demedclinic
IG: https://www.instagram.com/demedclinic        
Youtube https://bit.ly/3p20YLE       
Blockdit https://bit.ly/3d8vYr1        
https://vt.tiktok.com/ZSJ141Mdf/       
www.demedclinic.com   / www.demedhaircenter.com       

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้