แนะนำเทคนิคดูแลหลุมสิว ep. 12 เกล็ดเลือดเข้มข้น Platelet-rich plasma (PRP)ในการดูแลรักษาหลุมสิว PRP in Acne Scar Treatment (อย่างละเอียดครับ)

ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไป แล้วแต่บุคคล

ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไป แล้วแต่บุคคล

ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไป แล้วแต่บุคคล

แนะนำเทคนิคดูแลหลุมสิว ep. 12 เกล็ดเลือดเข้มข้น Platelet-rich plasma (PRP)ในการดูแลรักษาหลุมสิว PRP in Acne Scar Treatment (อย่างละเอียดครับ)
.
Platelet-rich plasma (PRP) คือสารสกัดพลาสม่าจากเลือดของเราเอง ที่มีความเข้มข้นของเกล็ดเลือดสูงกว่าระดับปกติ ซึ่งภายในประกอบไปด้วย Growth factor ที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตและการฟื้นฟูของเซลล์ต่างๆในร่างกาย

.
Dr. Ruj’s comments ——————————————
•ความเข้าใจผิดที่สำคัญคือเกล็ดเลือดเข้มข้นไม่ใช่ Stem Cell นะครับ ***** ดังนั้นต้องดูดีดีว่าการรักษาที่บอกว่าใช้สเต็มเซลล์ในการรักษาหลุมสิวจากการเจาะเลือดแล้วไปปั่นโดยไม่มีการฉีดสารกระตุ้นและกระบวนการทางห้องปฏิบัติการชั้นสูง น่าจะไม่ใช่สเต็มเซลนะครับเป็นเพียงเกล็ดเลือดเข้มข้นนั่นเอง โดยมีประโยชน์หลักคือ Growth factor
•ประโยชน์หลักของการใช้เกล็ดเลือดเข้มข้นในการดูแลหลุมสิวคือโกรธแฟคเตอร์ Growth factor ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ Fibroblast และช่วยลดการอักเสบจากการทำหัตถการเช่นเลเซอร์
•เทคนิคของหมอจะใช้ PRP ในการรักษาควบคู่กับวิธีอื่นเพื่อผลการรักษาที่ดียิ่งขึ้น Synergistic effect เช่นใช้ควบคู่กับการผ่าตัดพังผืด Canula Subcision และ Picosecond Laser หรือ InfiniRF Microneedle
•งานวิจัยโดย ผศ. นพ. ศุภะรุจ (หมอรุจ), รศ. นพ. เทอดพงศ์และทีม โดยการฉีด L-PRF ในการรักษาหลุมสิวพบว่าช่วยให้หลุมสิวเรียบขึ้นได้ *EADV 2020 โดยในทางปฏิบัติหมอมักจะไม่ฉีด PRP อย่างเดียวในการรักษาหลุมสิวเนื่องจากได้ผลในระดับหนึ่งแต่เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ควบคู่กับวิธีอื่นแล้วจะได้ผลดีกว่ามากครับ
——————————————————————————-

•โดยหลังจากการเก็บเลือดจากผู้ป่วย เลือดจะถูกวางไว้ในเครื่องหมุนเหวี่ยงพิเศษเพื่อแยกเกล็ดเลือดออกเป็นรูปแบบของ PRP และจะถูกฉีดเข้าไปในบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บ หรือบริเวณที่ต้องการจะกระตุ้นให้ฟื้นฟู เช่น เส้นผม ข้อเข่า เป็นต้น
•และช่วยบรรเทาอาการปวดและช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหาย นอกจากนี้ยังสามารถช่วยกระตุ้นกระบวนการรักษาและฟื้นฟูการเติบโตของเซลล์

.
เกล็ดเลือดเข้มข้นมีกี่ชนิด***
เกร็ดเลือดเข้มข้นแบ่งได้เป็น 4 ประเภทโดยแยกตามเซลล์ที่เป็นองค์ประกอบและไฟบริน fribrin network
.
Dohan Ehrenfest et al. proposed a classification of 4 main families of preparations
2 principle parameters: presence or absence of a cell content (such as leucocytes) and fibrin architecture:
1. Pure PRP or leucocyte-poor PRP (P-PRP): without leucocytes and shows a low-density fibrin network after activation.
2. Leucocyte and PRP (L-PRP): contain leucocytes and show a low-density fibrin network after activation.
3. Pure PRF or leucocyte-poor PRF (P-PRF): without leucocytes and with a high-density fibrin network.
Unlike pure PRP or PRP containing leukocytes, these products cannot be injected and exist in an activated gel form.
4. Leucocyte-rich fibrin PRF(L-PRF): with leucocytes and with a high-density fibrin network.
*Trends Biotechnol 2009; 2: 158–167
.
โดยส่วนมากที่มีการใช้ในทางผิวหนังคือ

1.Leucocyte and PRP (L-PRP) ซึ่งประกอบด้วยเกล็ดเลือดซึ่งมีความเข้มข้นสูงและเม็ดเลือดขาว
2.Leucocyte-rich fibrin PRF(L-PRF) ซึ่งประกอบด้วยเกร็ดเลือดความเข้มข้นสูงเม็ดเลือดขาวและโครงสร้างของไฟบรินที่หนาแน่น ครับ
.
และปัจจุบันจะมีการแบ่งเพิ่มเติมโดย
•การที่มีเจลที่ช่วยแยกชั้นเกล็ดเลือด Gel Seperator
•การใส่สารอื่นๆเพิ่มเติมเช่น Hyaluronic acid HA
เป็นต้นครับ

.
PRF ต่างจาก PRP อย่างไร?
PRF หลักการคือการใช้การปั่นเลือด Low Speed Centrifugation เพื่อให้ได้ส่วนประกอบของเลือดที่มีทั้งเกล็ดเลือดเข้มข้น เม็ดเลือดขาว และที่สำคัญคือไฟบริน Fibrin ซึ่งจะกักเก็บส่วนประกอบสำคัญของเลือดเช่นเกล็ดเลือดเข้มข้นเม็ดเลือดขาว Growth Factor ต่างๆ
.
•กระบวนการปั่น ไม่มีการเติมสารกันเลือดแข็งตัว ทำให้เกิดกระบวนการสร้างไฟบรินตามธรรมชาติ
*PRF มีความเข้มข้นของ growth factor (TGF-B, VEGF, IL-B) ที่สูงกว่า PRP
*PRF มีส่วนประกอบของ ไฟบริน ที่ทำหน้าที่เก็บกักgrowth factor ในตัวของมันเอง (Fibrin matrix) จึงทำให้สามารถปลดปล่อย growth factor ในปริมาณที่มากกว่าและปล่อยออกมาอย่างช้าๆ ทำให้การออกฤทธิ์ของ growth factor ยาวนานกว่า(ออกฤทธิ์สูงสุดที่ 7 วัน ) ส่วนPRPจะปลดปล่อย growth factor ออกมาทันที ทำให้หมดฤทธิ์ไวกว่า(ออกฤทธิ์สูงสุด 8 ชั่วโมง)
*กระบวนการปั่นของ PRF จะใช้แรงปั่นที่ต่ำ(Low G force) ทำให้เกิดความเสียหายต่อเกล็ดเลือดน้อยกว่า
.
ซึ่งสามารถใช้ในการดูแลรักษาปัญหาทางด้านผิวหนังเช่น ริ้วรอย หลุมสิว แผลเป็น ผมร่วง ผมบาง
-สามารถกักเก็บเกร็ดเลือดเข้มข้นได้ปริมาณมากกว่า strong natural fibrin matrix
-ได้สารเสริมสร้างการเจริญเติบโต Growth Factor ปริมาณที่มากกว่า
-ระยะเวลาในการออกฤทธิ์ของ PRF อยู่ได้นานกว่า PRP
-ไม่มีการเติมสารจากภายนอก เช่นสารยับยั้งการแข็งตัวของเลือด Anticoagulants หรือสารกระตุ้นเกล็ดเลือด Platelet Activator
-มีการใช้ในต่างประเทศทั้งทางด้านทันตกรรม กระดูก การช่วยเรื่องการบาดเจ็บ

.
การศึกษา Metaanalysis การใช้PRPในการรักษาหลุมสิว

✅การใช้ PRP ช่วยลดความรุนแรงของแผลเป็นหลุมสิวด้วยการใช้ร่วมกับ Microneedling หรือ การตัดพังผืด Subcision และได้ผลดีกว่าการใช้ Microneedling หรือ Subcision อย่างเดียว
✅การฉีด intradermal PRP ร่วมกับการตัดพังผืดช่วยให้หลุมสิวดีขึ้นได้และดีกว่าการใช้ PRP แบบทา topical PRP
✅Platelet-rich plasma in noninvasive procedures for atrophic acne scars: A systematic review and meta-analysis J Cosmet Dermatol. 2020 Apr;19(4):836-844.
.

การศึกษา Metaanalysis การใช้ PRP ทั้งการฉีด intradermal PRP และการทา Topical PRP ร่วมกับ Ablative Fractional CO2 Laser พบว่า ช่วยให้หลุมสิวดีขึ้นกว่าการใช้เลเซอร์อย่างเดียว ลดผลข้างเคียงจากการทำเลเซอร์และช่วยให้อาการแดงตกสะเก็ดหลังทำเลเซอร์หายเร็วขึ้น
.
.A meta-analysis of fractional CO 2 laser combined with PRP in the treatment of acne scar Lasers Med Sci. 2021 Feb;36(1):1-12.
.
ตัวอย่างผลการรักษาด้วยการใช้เลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์แบบแบ่งส่วนร่วมกับการฉีดเกร็ดเลือดเข้มข้น intradermal PRPจากงานวิจัย พบว่าใบหน้าด้านขวาซึ่งเป็นด้านที่รักษาร่วมกันมีผลการรักษาที่ดีกว่า

Evaluation of autologous platelet-rich plasma plus ablative carbon dioxide fractional laser in the treatment of acne scars J Cosmet Laser Ther . 2018 Apr;20(2):106-113.
.
งานวิจัยโดย ผศ. นพ. ศุภะรุจ (หมอรุจ), รศ. นพ. เทอดพงศ์และทีม โดยการฉีด L-PRF ในการรักษาหลุมสิวพบว่าช่วยให้หลุมสิวเรียบขึ้นได้ *EADV 2020
.
แต่อย่างไรก็ตามยังมีข้อจำกัดคือการใช้ PRPในการรักษาหลุมสิวยังมีการศึกษาไม่มากนักและจำนวนผู้ที่เข้าร่วมในการศึกษายังมีจำนวนไม่มากครับ ดังนั้นยังต้องการการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป
.
Cr:หมอรุจชวนคุย

.
This meta-analysis shows that the clinical efficacy of CO2 AFL combined with PRP in treating acne scars is better than that of CO2 AFL alone, with fewer side effects and faster recovery time after treatment. It provides encouraging evidence for the choice of clinical treatment for patientswith acne scars, but further studies with larger sample sizes and highquality clinical studies are needed to support this result.
.
https://youtu.be/DVITlWr4Zpg 
https://youtu.be/Rd3mDxnMfwE 
https://youtu.be/0q9pLr0MPwE 
https://www.blockdit.com/posts/605114945225d10abf48f5aa 
https://www.facebook.com/454651174702057/posts/2002796859887473/ 
.

คลิก!! จองสิทธิ์!! เพื่อรับข้อเสนอพิเศษ
(จำนวนจำกัด)

.
ฝากติดตามข้อมูลด้าน สิว หลุมสิว แผลเป็น เส้นผม และทุกปัญหาผิวกับหมอรุจได้ที่
...
ปรึกษาคุณหมอหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 063-959-4392 / 063-896-2514
Line: http://line.me/ti/p/@Demedclinic 
Line: @Demedclinic
Wechat/Whatsapp: Demedclinic
IG: https://www.instagram.com/drsuparuj  
www.facebook.com/drsuparuj  
Youtube https://bit.ly/3p20YLE 
Blockdit https://bit.ly/3d8vYr1 
https://vt.tiktok.com/ZSJ141Mdf/  
https://mobile.twitter.com/drruj1  
www.demedclinic.com    / www.demedhaircenter.com   
.